บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป และปิโตรเคมีเหลว ทางเรือให้กับลูกค้าตามความต้องการอย่างครบวงจร รวมถึงการให้บริการเรือขนส่งที่ให้การสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล ล่าสุดพาโบรกเกอร์และกองทุนชั้นนำ เข้าเยี่ยมชมความพร้อมของเรือ พีบี อธิชา (PB Athicha) เรือขนส่งปิโตรเคมีขนาด 11,000 เดทเวทตัน ก่อนเข้าให้บริการกลุ่มลูกค้าโรงกลั่นประเทศมาเลเซีย ที่อู่ต่อเรือยูนิไทย ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

ด้าน 3 โบรกเกอร์ (บล.ฟินันเซีย ไซรัส - บล.ดาโอ - บล.กสิกร) ประสานเสียง แนะนำ “ซื้อ” PRM หลังเข้าเยี่ยมชมเรือขนส่งปิโตรเคมี PB Athicha พร้อมมั่นใจเรือ PB Athicha จะช่วยหนุนให้บริษัทเติบโตแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง ขานรับเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มฟื้น รวมถึงจะช่วยให้ PRM ขยายเส้นทางการขนส่งปิโตรเคมีเหลวในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น สอดรับโรงกลั่นในภูมิภาคที่กำลังขยายกำลังการผลิต

โดย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด ระบุ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PRM ให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท สะท้อนจากฝ่ายวิจัย ที่ได้เยี่ยมเข้าชมเรือ “พีบี อธิชา” เรือขนปิโตรเคมีเหลวขนาดใหญ่ 11,000 เดทเวทตัน อายุ 14 ปี ให้บริการลูกค้าที่เช่าเหมาลำระหว่างประเทศในเส้นทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่ผ่านมารายได้ส่วนใหญ่มาจากการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันที่วิ่งในประเทศเป็นหลัก โดยรายได้กว่า 70% เป็นรายได้คงที่ตลอดอายุสัญญา
 คาดว่าหลังจากนี้  PRM จะเริ่มมีการเติบโตจากการขนส่งน้ำมันและปิโตรเคมี ระหว่างประเทศ รวมถึงบริษัทมีแผนลงทุนขยายกองเรือเพิ่มเติมเป็น 16 ลำ จากปัจจุบัน 9 ลำ จึงคาดว่ากำไรปกติในปี 2567 น่าจะทำนิวไฮ

ขณะที่ บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PRM ให้ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท หลังได้เข้าเยี่ยมชมเรือขนส่งปิโตรเคมี “PB Athicha” โดยมีประเด็นสำคัญ ตลาดยังคงมีความต้องการใช้เรือขนส่งปิโตรเคมีในระดับสูง ซึ่งในปัจจุบัน PRM มีเรือขนส่งปิโตรเคมี 9 ลำ และมีแผนจะเพิ่มอีก 2 ลำ ในปี 2567 โดยเรือขนส่งปิโตรเคมีจะมีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงกว่าเรือขนส่งน้ำมัน เนื่องจากเป็นสัญญา Time Charter และขนส่งเส้นทางระหว่างประเทศ ทำให้มีรายได้ดีกว่าและไม่ต้องรับความเสี่ยงต้นทุนราคาน้ำมัน

อีกทั้ง บริษัทมีแผนขยายธุรกิจ Offshore Support เพิ่มต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างศึกษาการให้บริการเรือ FSO (เรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบสำหรับแท่นขุดเจาะ) ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2567

นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประเมินกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 ว่าจะกลับมาเติบโตดี และประเมินกำไรปกติปี 2567 อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน

ส่วนบริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PRM ให้ราคาเป้าหมาย 8.06 บาท โดยคาดว่า PRM จะรายงานกำไรในไตรมาส 1/2567 ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจสนับสนุนการสำรวจและผลิตน้ำมันนอกชายฝั่ง (Offshore Support) เนื่องจากมีเรือ AWB และเรือ Crew Boat เพิ่ม ช่วยเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจของ PRM ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งคาดการณ์ว่าธุรกิจอื่นๆ จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 ด้วยเช่นกัน

#PRTheway 
#ThewayCommunications    
#PRM