PTG
“PTG” ทุ่ม 205 ลบ.ซื้อธุรกิจอาหาร และกาแฟ
แบรนด์ “Coffee World” และอื่นๆ ภายใต้ GFA
เสริมศักยภาพธุรกิจ non-oil ทั้งใน และต่างประเทศ
“พีทีจี เอ็นเนอยี” ทุ่มงบ 205 ลบ.ส่ง “กาแฟพันธุ์ไทย” เข้าซื้อหุ้น “จี เอฟ เอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์)” ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ Coffee World, Cream & Fudge และอื่นๆ เสริมศักยภาพขยายธุรกิจ non-oil นอกสถานีบริการ ทั้งใน และต่างประเทศ ลดการพึ่งพาธุรกิจน้ำมันอย่างเดียว
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯได้อนุมัติให้บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด หรือ PUN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่PTG ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท จี เอฟ เอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ GFA ผู้ดำเนินกิจการด้านธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มภายใต้เครื่องหมายทางการค้าชื่อดัง จำนวน 29,350 หุ้น ในราคาหุ้นละ 6,984.19 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 205 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ GFA โดย PTG ได้เข้าลงทุน และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ PUN เพื่อให้ PUN มีเงินทุนสำหรับการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GFA ทั้งนี้ เงินทุนที่บริษัทให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ PUN เป็นเงินทุนจากกระแสเงินสดที่ได้จากการประกอบกิจการของบริษัท
ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GFA ผู้ดำเนินกิจการด้านธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มภายใต้เครื่องหมายทางการค้า Coffee World, Cream & Fudge, New York 5th Av. Deli, Coffee World Restaurant และ Thai Chef Express ปัจจุบัน GFA มีสาขาภายใต้เครื่องหมายทางการค้าต่างๆ รวม 130 สาขา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จะช่วยให้ PTG สามารถเพิ่มศักยภาพของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน หรือ non-oil และจะสามารถเพิ่มช่องทางการขยายธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่มในพื้นที่ที่มีศักยภาพนอกสถานีบริการน้ำมัน PT เช่น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ คอมมูนิตี้มอลล์ และสนามบิน ในประเทศไทย และต่างประเทศเพื่อสร้างสินค้า และบริการที่หลากหลายให้กับลูกค้าปัจจุบัน และขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายไปสู่ธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่มในอนาคต และที่สำคัญจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของ PTG ในการพึ่งพาธุรกิจน้ำมันเพียงอย่างเดียว
“การเข้าลงทุนในครั้งนี้ เรามองเห็นถึงโอกาสในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่มในอนาคต โดยเฉพาะการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์แผนธุรกิจของเราได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการขยายธุรกิจ non-oil ให้เพิ่มสูงขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจน้ำมันเพียงอย่างเดียว และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับบริษัทฯในระยะยาวได้” นายพิทักษ์กล่าว