PTG ยืนยันปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น “รัชกิจ โฮลดิ้ง” ไม่กระทบอำนาจการควบคุมและการจัดการธุรกิจ ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้
PTG ยืนยันปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น “รัชกิจ โฮลดิ้ง”
ไม่กระทบอำนาจการควบคุมและการจัดการธุรกิจ
ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้
“พีทีจี เอ็นเนอยี” ยืนยันปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใน “รัชกิจ โฮลดิ้ง” ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และยังคงถือหุ้นใน PTG จำนวน 25.12% ย้ำภายในสิ้นปีนี้จะเปิดสาขาสถานีบริการน้ำมันและแก๊สแอลพีจีให้ครบ 1,900 สาขาทั่วประเทศ
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ดำเนินการแจ้งเรื่องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ “รัชกิจ โฮลดิ้ง” แต่ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นใน PTG อยู่ที่ 25.12%
“การบริหารงาน ทิศทางการกำหนดนโยบาย และการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงเหมือนเดิม ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของสมาชิกในครอบครัวเป็นการดำเนินการปกติเพื่อความเหมาะสมในครอบครัว และทางครอบครัวขอยืนยันความเหนียวแน่นและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” นายพิทักษ์ กล่าว
โดยบริษัทยังคงมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 ในการเดินหน้าเปิดสาขาสถานีบริการน้ำมันและแก๊สแอลพีจี เพื่ออยู่ที่ 1,900 สาขา ในช่วงสิ้นปี โดยจะเน้นการขยายสาขาเฉพาะในพื้นที่ ซึ่งยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากมองเห็นแนวโน้มการตอบรับที่ดีจากปริมาณการขายที่เติบโตอยู่ที่ 14% มากกว่าอัตราการเติบโตในภาพรวม ซึ่งอยู่ที่ 8%
อีกทั้งจะเพิ่มการให้ความสำคัญในกลุ่มธุรกิจนอนออยล์ ด้วยการวางแผนขยายจำนวนสาขาของธุรกิจนอนออยล์ให้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 500 สาขา ซึ่งได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck และสำหรับรถยนต์ Autobacs ส่วนโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ขณะนี้เริ่มการรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 แล้ว และคาดว่ากำไรในปี 2561 จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท และปี 2562 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ระดับ 240-280 ล้านบาท ซึ่งในปี 2562 บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจนอนออยล์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 20-25%