‘พริมา มารีน’ ลงนามซื้อกิจการ Big Sea ลอตแรก 70% เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ขยายฐานลูกค้าแบบเท่าตัว คาดรับรู้รายได้ทันทีภายในไตรมาส 2/2561
‘พริมา มารีน’ ลงนามซื้อกิจการ Big Sea ลอตแรก 70%
เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ขยายฐานลูกค้าแบบเท่าตัว
คาดรับรู้รายได้ทันทีภายในไตรมาส 2/2561
บมจ. พริมา มารีน (“PRM”) ลงนามสัญญาเข้าซื้อหุ้น บริษัท บิ๊ก ซี จำกัด (Big Sea) ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปทางทะเลรายใหญ่ภายในประเทศ จำนวน 360,000 หุ้น รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้นไม่เกิน 2,900 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการซื้อ ขายลอตแรก 70% และจะทยอยซื้อเพิ่มอีก 30% ภายใน 3 ปี หนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจกลุ่มขนส่งน้ำมันดิบทางทะเลในประเทศ ดันส่วนแบ่งการขนส่งน้ำมันของลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทค้าน้ำมันชั้นนำของประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น คาดส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจในระยะยาวให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (สัญญารับโอนกิจการทั้งหมด) เพื่อเข้าซื้อหุ้นบริษัท บิ๊ก ซี จำกัด (Big Sea) โดยมีนายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRM และนายทินกร เทิดวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Big Sea ร่วมลงนามในสัญญาเข้าซื้อขายหุ้นในครั้ งนี้
นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสำเร็จรูปและปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรซึ่งเป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย รวมถึงให้บริการเรือขนส่งที่สนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล และการบริหารจัดการกองเรือของอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า การเข้าซื้อหุ้นของ Big Sea ในครั้งนี้ เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ PRM ในกลุ่มธุรกิจขนส่งฯ ภายในประเทศ ให้มีความแข็งแกร่งในด้านจำนวนเรือที่จะเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว ซึ่งส่งผลให้ PRM มีส่วนแบ่งการตลาดการขนส่งในประเทศเป็นอันดับ 1 โดยคิดเป็นสัดส่วน 49% ของส่วนแบ่งการขนส่งตลาดในประเทศทั้งหมด โดยมีความสามารถในการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้ ปริมาณการขนส่งของ เชฟร่อน จากเดิม 15% จะเพิ่มเป็น 43%, เชลล์จากเดิม 19%จะเพิ่มเป็น 64%, IRPC จากเดิม 19% จะเพิ่มเป็น 52% และยังขยายฐานลูกค้าใหม่ คือ บางจาก คิดเป็นสัดส่วน 37% ของปริมาณน้ำมันที่ขนทางเรืออีกด้วย
สำหรับรายละเอียดการเข้าซื้อหุ้น Big Sea แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 PRM จะเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 252,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดใน Big Sea จากบริษัท ทีดับบลิวที จำกัด โดยมีมูลค่ารวมไม่เกิน 1,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำธุรกรรมแล้วเสร็จ และรับรู้รายได้ทันทีภายในไตรมาส 2/2561
ช่วงที่ 2 PRM จะทยอยเข้าซื้อหุ้น Big Sea ในส่วนที่เหลืออีก 108,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดจาก ทีดับบลิวเอทีที ลิมิเต็ด (TWATT Limited) โดยทยอยเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 10% ต่อปี รวม 3 ปี ซึ่งสัดส่วนการเข้าทยอยซื้อหุ้นในช่วง 3 ปีนี้จะพิจารณาจากผลการดำเนินงานของ Big Sea เป็นสำคัญ โดยคาดว่าการซื้อขายหุ้นในช่วงที่ 2 จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2564 ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท”
ทั้งนี้ Big Sea เป็นผู้ดำเนินธุรกิจขนส่งฯ ภายในประเทศ ซึ่งมีส่วนแบ่งการขนส่งเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยเป็นเจ้าของกองเรือขนส่งขนาดเล็ก จำนวน 13 ลำ ซึ่งมีอายุเรือเฉลี่ย 17.3 ปี ขนาดความจุเฉลี่ยต่อลำอยู่ที่ 2.7 ล้านลิตร รวมความจุทั้งหมดประมาณ 35.2 ล้านลิตร โดยรับสินค้าจากโรงกลั่นน้ำมันและคลังน้ำมันในประเทศซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ให้แก่ลูกค้ากลุ่มบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ โดยมีสัญญาให้บริการกับกลุ่มลูกค้าระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี จำนวน 3 ลำ และสัญญาระยะยาวมากกว่า 1 ปี อีก 10 ลำ รวมถึงอยู่ระหว่างดำเนินการต่อเรือขนส่งเพิ่มอีก 1 ลำ ขนาดความจุ 5.3 ล้านลิตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 เพื่อให้บริการแก่ เชฟรอน หลังได้รับสัญญาเช่าระยะยาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ Big Sea มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 457 ล้านบาทในปี 2558 เพิ่มเป็น 596 ล้านบาทในปี 2560 ขณะที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 97 ล้านบาท เพิ่มเป็น 110ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย 19%